วันนี้แอดมินจะพามาดู คีย์เวิร์ดสุดเลิศ กันที่นิยมใช้ในโลกออนไลน์ แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู็จักกันก่อนว่าเจ้าตัวนี้คืออะไร?
Long-Tail Keyword คือ กลุ่มคำ หรือวลีมากกว่าสองคำขึ้นไป ที่มีความเจาะจงถึงแบรนด์ สินค้า และ บริการ ตัวแคมเปญ หรือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ และ ยอดมีการค้นหา หรือ Search Volume ค่อนข้างต่ำกว่า Keyword แบบสั้น ๆ โดยประกอบไปด้วยการรวมกลุ่มของ Short Keyword คีย์เวิร์ดที่เป็นที่นิยมในการค้นหาหลาย ๆ Keyword รวมกัน วลีประโยค หลายคนคงอาจจะเข้าใจผิดคิดว่า Long-Tail Keyword นั้น มียอดการค้นหาต่ำ และอาจไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่า Short Keyword
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อดูจากรูปตัวอย่างด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นว่า Keyword ที่มีความยาวที่สุด ไม่ได้หมายความว่าจะมี Search Volume น้อยที่สุดเสมอไป และ ค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งการคลิก หรือ CPC นั้น ก็ไม่ได้ต่ำที่สุดเช่นกัน ภาพจาก : https://ahrefs.com ยิ่งไปกว่านั้น จากภาพกราฟของ Search Demand Curve หรือ ข้อมูลการค้นหา Ketword ของผู้ใช้งาน ด้านล่างนี้ ได้อธิบายคุณสมบัติของ Long-Tail Keyword ไว้ว่า กลุ่มคำที่มีจำนวน Search Volume น้อย หรือ Long-Tail Keyword นั้น สามารถสร้างยอด Conversion ที่ทำไปสู่ยอดขายได้มากกว่า ซึ่งหากเป้าหมายของคุณคือการเพิ่มยอดขาย การทำ Long-Tail Keyword นี้จะตอบโจทย์กับกลุยทธ์แคมเปญทางการตลาดของคุณอย่างมากเลยค่ะ
นอกจากนี้ การใช้ Keyword รูปแบบ Long-Tail เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการติดอันดับการค้นหาด้วยวิธี Organic อีกทั้งเวลาที่เข้าไปทำการ Bid หรือ ประมูล นั้น Long-Tail Keyword จะมี CPC ค่อนข้างต่ำ เพราะว่าคู่แข่งน้อย การแข่งขันไม่สูง
วิธีการหา Long-Tail Keyword
1.ค้นหาด้วยการแนะนำของ Google การหา Long-Tail Keyword แบบที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือแบบง่าย ๆ วิธีแรก คือ การพิมพ์สิ่งที่คุณพิมพ์คีย์เวิร์ด หรือสิ่งที่อย่างรู้ลงใน Google เราก็จะเห็นว่า Google นั้น แนะนำคำที่กำลังเป็นที่นิยมในการค้นหานั้น ๆ ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ด หรือคำที่ถูกค้นหาในรูปแบบไหนที่คนนิยมใช้ และสามารถนำมาปรับให้ใช้ได้กับการทำ Long-Tail Keyword ในกับสินค้า และ บริการของเราเมื่อเราใส่ Keyword และได้ทำการค้นหาแล้ว ในหน้าแรกของ Google นั้น ทำให้เห็นอีกเช่นกันว่าเราสามารถทำไอเดียการหา Long-Tail Keyword จากฟีเจอร์ People also ask และ Search related หรือ สิ่งที่ Google แนะนำว่าอาจจะใกล้เคียงกับสิ่งผู้ใช้งานต้องการจะหาคำตอบ โดยเราสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปต่อยอดสำหรับการเลือก Long-Tail Keyword ให้เหมาะสมกับเราได้เช่นกัน
หลังจากที่เราได้ไอเดียสำหรับการทำ Long-Tail Keyword จากการแนะนำของ Google แล้ว เราสามารถนำกลุ่ม Keyword ต่าง ๆ ที่เราสนใจมาเช็คด้วยเครื่องมือ Google Keyword Planner, Google Search Console หรือ Ubersuggest เพื่อค้นหา Search Volume หรือ จำนวนการที่คำถูกค้นหา เพื่อทำให้ได้คำที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา
2.ศึกษาไอเดียจากคู่แข่ง หรือเว็บไซต์ที่ทำ SEO ได้ดี การศึกษาจากคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคู่แข่ง หรือเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพในการทำ SEO นั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราจะได้เห็นแนวคิดในการทำ SEO รวมถึงได้ไอเดียทำมาต่อยอดการในการทำ Long-Tail Keyword และ เรายังสามารถเป็นการอัพเดต Keyword ใหม่ ๆ ไปในตัวด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถศึกษาจากเว็บไซต์คู่แข่งเราที่ติดอันดับต้น ๆ ซึ่งทุกอย่างบนเว็บไซต์สามารถเป็น Keyword ที่สร้างประสิทธิภาพที่ส่งผลของการจัดลำดับการค้นหาได้ โดยเราสามารถดูเป็นตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเว็บไซต์สินค้า และบริการของเราได้
เป็นตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้ Long-Tail Keyword ในการทำคอนเทนต์เป็นส่วนใหญ่ในหน้าเพจ
3. สังเกตพฤติกรรมการค้นหาของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สำหรับวิธีอีกหนึ่งวิธีที่จะค้นหาคำสำหรับมาสร้าง Long-Tail Keyword ให้คุณภาพมากขึ้นนั้น การเข้าถึงสิ่งที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณกำลังสนใจ และ กลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าก็จัดเป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งเราสามารถทำได้โดย เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย : การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะค้นหาสินค้า หรือบริการของคุณนั้นคิดมีมุมมองต่อแบรนด์ จะทำให้เราเจอ Keyword ที่เหมาะสมกับกลุ่ม Lead ซึ่งเราศีกษาได้จาก ภาษาที่ใช้ ลักษณะการเลือกใช้ในการค้นหาสิ่งต่าง ๆ สอบถามข้อมูลความพึงพอใจในการใช้สินค้า และบริการจากผู้ใช้จริง การที่เราได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแบรนด์จากผู้ใช้จริงนั้น สามารถนำสิ่งที่ลูกค้าประทับใจ ทั้งในรูปแบบ การบริการ หรือ ตัวผลิตภัณฑ์จากการสอบถามพูดคุยกับผู้ใช้นำมาเพื่อหาไอเดียในเรื่องสำหรับการสร้าง Keyword ได้เช่นกัน สังเกตจากการเทรนด์สังคมออนไลน์ : การศึกษาจากแหล่ง Community อย่าง Facebook Group หรือ แพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่การพูดถึงคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสินค้า และบริการของเราว่าคำถามที่มันจะพบบ่อยของกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้ามีความคิดเห็นอย่างไร
4. การใช้เครื่องมือในการค้นหา เราสามารถใช้เครื่องมือในการค้นหา Keyword ที่มีแนวโน้มว่าจะมีประสิทธิภาพกับเราได้ โดยสำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะเริ่มการทำ Long-tail Keyword ได้อย่างไรนั่น ก็สามารถเริ่มจากการค้นหา Short-Tail Keyword หรือกลุ่มคำที่มีจำนวนการถูกค้นหา หรือ Search Volume ในการเข้าถึงสูง โดยการใช้เครื่องมืออย่าง Google Trend รวมถึง Social Media Tool อื่น ๆ ของ YouTube’s keyword tool และ Twitter Search ในการค้นหาประสิทธิภาพของ Keyword ที่เราสนใจ รวมถึงยังสามารถเข้าถึงข้อมูล Insights ของผู้ใช้ที่ทำการค้นหาคำเหล่านี้ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถทำไปเป็นข้อมูลที่ทำไปต่อยอดในการวางแผนแคมเปญในอนาคต จากภาพด้านบน เป็นการใช้เครื่องมืออย่าง Google Trend เพื่อเปรียบเทียบจำนวนคำ หรือ Keyword ที่ใช้เสิร์จว่ามีทิศทางเป็นอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจากภาพนั้นแสดงให้เห็นว่าคนนิยมค้นหาด้วยคำว่า Women มากกว่า Female อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่ค้นหาว่าอาศัยอยู่พื้นที่ไหนบ้างได้เช่นกัน
สรุป การมี Long-Tailed Keyword นั้น จัดเป็นอีกหนึ่งอาวุธลับที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากจะเข้ามาทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของ SEO ดีมากยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้ของเว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น ทำมาสู่ยอดขายที่มากขึ้นในอนาคต หากคุณผู้อ่านท่านไหนเริ่มมีความสนใจ หรือมองเห็นถึงความสำคัญในการใช้ Data การเลือก Keyword ให้ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น STEPS Academy ขออนุญาตแนะนำหลักสูตร SEO Content Marketing หลักสูตรที่จะทำให้คุณยกระดับการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดให้เป็นที่หนึ่งเหนือคู่แข่ง รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อชิงตำแหน่งบน Search Engine
แอดมินหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนนะคะ อย่าลืมนะคะนึกถึงการตลาดออนไลน์ นึกถึงเมต้าเอเจนซี่ ผู็ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงงจร
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : https://ahrefs.com https://www.wordstream.com