ในยุคนี้ ธุรกิจแข่งขันกันในโลกออนไลน์อย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงความสนใจจากผู้คน ทุกคนต่างก็ทำโฆษณาส่งไปหากลุ่มเป้าหมาย เพราะต้องการเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้กลายมาเป็นลูกค้า เพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ โฆษณาที่พูดถึงสินค้าและพยายามขายของมีอยู่เต็มไปหมดในโลกออนไลน์ อาจเป็นการส่งสารที่ผิดที่ผิดเวลา ผู้รับอาจไม่ได้ต้องการในขณะนั้น ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้สึกเชิงลบกับธุรกิจมากกว่าเชิงบวก
การที่ลูกค้าจะดูโฆษณา อ่านบทความต่อหรือปิดทิ้งไป ขึ้นอยู่กับคอนเทนต์หรือเนื้อหาที่นำเสนอออกไป เนื่องจาก Content Marketing ที่ดี สามารถสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ ซึ่งทำให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาด และดึงความสนใจของผู้คน ทำให้อยากติดตามต่อและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายได้
กลยุทธ์การตลาดที่สามารถมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้คนได้ ที่ธุรกิจระดับโลกและธุรกิจจำนวนมากนิยมใช้ คือ Content Marketing นั่นเอง
ในบทความนี้ W Experience จะพาไปดูว่า Content Marketing ที่ดีควรมีลักษณะเป็นอย่างไร และทำไม Content Marketing ถึงทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ รวมถึงยกตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จระดับโลกที่ใช้กลยุทธ์นี้ในทำการตลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
Content Marketing ที่ดีควรเป็นอย่างไร
ในยุคนี้ใคร ๆ ก็ทำ Content ได้ แต่การทำ Content ให้ออกมาดีและสร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แบรนด์มักอยากขายสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ แต่ลูกค้าย่อมไม่อยากรู้สึกว่าโดนโฆษณาขายของในขณะที่เสพคอนเทนต์ ซึ่ง Content Marketing มาช่วยในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นการทำคอนเทนต์ที่ไม่ได้ขายของตรง ๆ แต่ส่งมอบคุณค่าและประโยชน์ให้กับกลุ่มเป้าหมายแทน ช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการ จนทำให้พวกเขารู้สึกไว้ใจและผูกพันกับแบรนด์ แล้วจากนั้นกลุ่มเป้าหมายก็จะกลายมาเป็นลูกค้าเองในอนาคต
การทำ Content Marketing ที่ดีเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
Content ที่คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย
คุณต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าของธุรกิจให้ดีเสียก่อน เริ่มจากการสร้าง Persona ตัวแทนของกลุ่มลูกค้าว่าเป็นคนแบบไหน คุณสามารถกำหนด Persona ของธุรกิจ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- เริ่มจากแบ่ง Persona ออกมาให้ชัดเจน เพราะธุรกิจมักไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว
- เมื่อแบ่ง Persona แล้ว จึงมาเจาะลึกลงรายละเอียดของแต่ละ Persona ว่ามีลักษณะอย่างไร ลักษณะทางประชากรศาสตร์ เพศ อายุ ที่อยู่อาศัย การศึกษา และมีอาชีพอะไร โดยใช้ Tools ต่าง ๆ เช่น Facebook Audience Insight หรือ Google Analytics
- จากนั้นรวบรวมข้อมูลที่ได้ นำมาวิเคราะห์และสรุปเป็น Persona ซึ่งเพื่อความเข้าใจและจดจำง่าย ควรใส่ชื่อของแต่ละ Persona เข้าไป รวมถึงกำหนดลักษณะทางจิตใจ ว่ามี Pain Point ความต้องการ ความท้าทายและเป้าหมายในชีวิตเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ยังต้องทำความเข้าใจ Customer Journey ว่าก่อนที่เขาจะมาซื้อสินค้าบริการของเรา ต้องพบเจอกับอะไรบ้าง มีพฤติกรรมอย่างไร และความคิดในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร คุณถึงจะเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถสร้างคอนเทนต์ที่พวกเขาต้องการจะเห็นได้นั่นเอง
Content ที่มี “คุณค่า”
เมื่อคุณรู้จักกลุ่มลูกค้าของธุรกิจเป็นอย่างดีแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าต่อพวกเขา
คอนเทนต์ที่มีคุณค่า จะต้องเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ ที่กลุ่มเป้าหมายอยากฟัง สามารถแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการ แต่ต้องเชื่อมโยงกลับมาที่แบรนด์ เพื่อทำให้เห็นว่าสินค้าบริการของคุณดีมากพอ ที่จะพาพวกเขาไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้และดึงดูดกลุ่มคนที่สนใจแบรนด์เข้ามาได้อีกด้วย
Content ที่มีความสม่ำเสมอ
การเผยแพร่คอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้คนจดจำแบรนด์เราได้ ถ้าหากคอนเทนต์มอบคุณค่าให้แก่กลุ่มเป้าหมาย พวกเขาก็จะติดตามและเฝ้ารอคอนเทนต์ใหม่ ๆ ของคุณอีกด้วย
McKinsey & Company เปิดเผยว่า การมี interaction กับแบรนด์เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้ ความสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์
ซึ่งคุณต้องเลือกกำหนดความสม่ำเสมอของคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ถ้าหากคุณเผยแพร่คอนเทนต์จำนวนน้อยไป กลุ่มเป้าหมายจะลืมและไม่สนใจแบรนด์คุณ แต่หากคุณเผยแพร่คอนเทนต์จำนวนมากและถี่เกินไป ก็จะสร้างความรำคาญให้กับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เลิกติดตามหรือบล็อกแบรนด์คุณไปเลยก็เปนได้
Content ที่มีความคิดสร้างสรรค์
ทุกคนคงไม่อยากรู้สึกว่ากำลังโดนขายของอยู่ในขณะที่ดูคอนเทนต์ต่าง ๆ คอนเทนต์ที่สื่อถึงโฆษณาอย่างชัดเจนจะสร้างผลที่ตรงข้ามไปในด้านลบ เพราะเป็นการกดดันให้ซื้อ ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกไม่ดีกับแบรนด์และเลิกติดตามแบรนด์ไปในที่สุด
ปัจจุบัน ธุรกิจจำนวนมากหันมาทำคอนเทนต์ แต่มีธุรกิจเพียงไม่กี่เจ้าที่สามารถทำคอนเทนต์ ที่ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าได้จริง ดังนั้นแบรนด์จึงควรใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำคอนเทนต์ที่สามารถสร้างความโดดเด่นจากเจ้าอื่นในตลาดและทำให้กลุ่มเป้าหมายอยากใช้เวลาไปกับคุณนานขึ้น โดยทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ ให้ความรู้มุมมองใหม่ ๆ และแก้ปัญหาของพวกเขาได้
เหตุผลที่ Content Marketing เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจคุณในปี 2021
สร้างการรับรู้และความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้า
Content Marketing เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างการรับรู้แบรนด์ บอกให้รู้ว่าสินค้าหรือบริการของคุณช่วยเหลือ แก้ปัญหาให้กับผู้คนได้อย่างไรและช่วยขยายการเติบโตให้กับธุรกิจคุณ
Content Marketing สามารถทำได้ในหลายช่องทาง ทั้ง Paid Ads, โซเชียลมีเดีย, อีเมล และ Search Engine ซึ่งเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากเวลาที่ผู้คนมีข้อสงสัยหรือปัญหา มักจะหาข้อมูลและหนทางแก้ปัญหาโดยการเสิร์ชผ่านทาง Search Engine ส่วนใหญ่คือ Google
ในการสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์กับลูกค้า คุณจำเป็นต้องวางโครงสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ เมื่อเข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของธุรกิจคุณ
โดยวางคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับ User ในแต่ละ Stage of Awareness มีทั้งหมด 5 Stage ดังนี้
- Unaware เป็นขั้นที่ User ยังไม่รับรู้ถึงปัญหาของตนเอง ควรทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ข้อมูลที่ประโยชน์ต่อการตระหนักถึงปัญหาของพวกเขา
- Problem Aware เป็นขั้นที่ User รับรู้ถึงปัญหา แต่ยังไม่รู้วิธีแก้ปัญหานั้น User เริ่มค้นหาคำตอบจากเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ควรทำคอนเทนต์ที่เสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้กับพวกเขา เช่น บล็อก Infographic หรือวิดีโอ
- Solution Aware เป็นขั้นที่ User รับรู้ปัญหาและวิธีแก้มาสักระยะหนึ่ง แต่ยังไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ ควรทำคอนเทนต์ที่บอกว่าสินค้าหรือบริการประเภทเดียวกับคุณ มีข้อดีอย่างไร แก้ปัญหาได้อย่างไร เช่น Case Study หรือ บทความเปรียบเทียบสินค้า
- Product Aware เป็นขั้นที่ User รู้จักแบรนด์ของคุณ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ ควรทำคอนเทนต์ที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์คุณแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไรและทำให้แบรนด์คุณโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น เช่น สินค้าทดลอง บทสัมภาษณ์ลูกค้าหรือการจัดสัมมนา
- Highly Aware เป็นขั้นที่ User รู้จักแบรนด์คุณและรู้ว่าแบรนด์คุณดีอย่างไร แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะซื้อ ควรทำคอนเทนต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้กับลูกค้าและปิดการขายให้เร็วที่สุด เช่น คูปองส่วนลด โปรโมชั่นพิเศษหรือรีวิวสินค้า
นอกจากนี้ หากคอนเทนต์ของคุณ ตอบคำถามของพวกเขาได้ ทำหน้าที่เหมือนเป็นทีมที่ช่วยเหลือลูกค้าได้ตลอดเวลา ผู้คนก็จะจดจำและมีความรู้สึกด้านบวกกับแบรนด์ และเมื่อคุณเผยแพร่คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อไป ผู้คนจะกลับมาติดตามคอนเทนต์เหล่านั้น จนเกิดความรู้สึกไว้ใจและผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น นำไปสู่การเป็น Power User บอกต่อแบรนด์และโน้มน้าวให้ผู้อื่นมี interaction แบรนด์ด้วยเช่นกัน
สร้างความแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง
Content Marketing ช่วยสร้างความแตกต่างของแบรนด์คุณจากคู่แข่งได้ ผู้คนสามารถรับรู้ได้ว่าแบรนด์ไหนที่ใส่ใจลูกค้าจริง ๆ โดยส่งมอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่าแก่พวกเขา จากสถิติบ่งบอกว่า
- 84% ของผู้คนคาดหวังให้แบรนด์ผลิตคอนเทนต์ที่ให้ความเพลิดเพลิน มอบประการณ์ที่ดีและแก้ปัญหาได้
- 70% ของลูกค้า ชื่นชอบที่จะเรียนรู้สินค้าหรือบริการของแบรนด์ผ่านบทความมากกว่าโฆษณา
คุณควรศึกษา วิเคราะห์ และค้นหาจุดเด่นจุดด้อยทางการตลาดของแบรนด์คู่แข่ง เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีและมีคุณค่ามากกว่ามอบให้กับกลุ่มเป้าหมาย
กำหนด Brand Personality ว่าแบรนด์จะมีคาแรคเตอร์เป็นอย่างไร จะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ใช้ภาษาและโทนเสียงที่เป็นสไตล์แบรนด์คุณในการสื่อสารกับลูกค้า พวกเขาจึงจะจดจำแบรนด์ได้และรู้สึกแบรนด์มีความพิเศษแตกต่างจากแบรนด์ทั่วไป ซึ่งทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ในระยะยาว
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะมีคอนเทนต์จำนวนมหาศาลจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์จะมีประโยชน์ นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มต้นทำคอนเทนต์ให้โดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์ทั่วไป
ถ้าคุณอยากทำ Content Marketing แต่ยังไม่มีประสบการณ์ เรา พร้อมให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกเมื่อ
ใช้ต้นทุนต่ำกว่า ผลตอบแทนคุ้มค่า
Content Marketing ได้รับความนิยมอย่างมากจากหมู่นักการตลาดในหลายปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
ใช้ต้นทุนต่ำกว่าการตลาดแบบเดิมและการทำโฆษณาถึง 62% และสร้าง Lead เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า อ้างอิงจาก DemandMetric
หากเปรียบการทำ Content Marketing เป็นการลงทุน เมื่อเทียบกับการทำโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads, Google Ads หรือโฆษณาออนไลน์อื่น ๆ เมื่อแคมเปญสิ้นสุดลง คอนเทนต์ของเราก็จะหยุดการแสดงผลไปด้วย ทำให้ผู้คนเห็นน้อยลงหรือไม่มีผู้คนเห็นอีกต่อไป ในทางกลับกัน คอนเทนต์ที่อยู่บนเว็บไซต์ของเรา จะคงอยู่ไปตลอดหลังจากที่โพสต์ลงเว็บไซต์ หากคอนเทนต์มีคุณภาพและคุณค่า ก็จะมีคนเข้ามาดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งต้นทุนในการทำคอนเทนต์ มีเพียงเวลาและความรู้
คอนเทนต์ที่ดี ถือเป็นสมบัติของธุรกิจเลยทีเดียว เนื่องจากสามารถสร้างยอดเข้าชมแบบ organic การพูดถึงแบรนด์ และการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียได้จำนวนมาก ช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ในระยะยาว
จาก สถิติ แสดงให้เห็นว่าบริษัทที่ทำแคมเปญ Content Marketing มียอด Traffic และ Leads มากกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำ Content Marketing ดังนี้
- ยอดเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 55%
- มี Backlinks กลับมาที่เว็บไซต์เพิ่มขึ้น 97%
- จำนวน Leads เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5 เท่า จากการทำ Content Marketing
เพิ่มจำนวน Conversion ให้กับธุรกิจ
ในยุคนี้ ผู้คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตจะถูกรุมเร้าด้วยโฆษณาในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Feed, Google Search Results, Twitter, Instagram หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ การทำโฆษณาออนไลน์จึงมีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งทำให้โฆษณาแพงขึ้นและดึงความสนใจจากผู้คนได้ยากขึ้น
Content Marketing สามารถช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ เนื่องจากทำให้แบรนด์ได้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง โดยส่งมอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่า ให้ข้อมูลความรู้ที่เหมาะสมกับผู้คนในแต่ละขั้นของ Customer Journey เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าในระยะยาว
ซึ่งผู้คนมีแนวโน้มที่จะสร้าง Conversion หรือซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้ใจและพิสูจน์แล้วว่ามีความคุณภาพพอที่จะแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้
ยกตัวอย่าง เวลาจะซื้อเครื่องสำอาง ผู้คนมักจะดูรีวิวในอินเตอร์เน็ตก่อน ทั้งรูป วิดีโอและบล็อก ก่อนตัดสินใจซื้อ หากแบรนด์ใช้กลยุทธ์ Content Marketing ทำคอนเทนต์รีวิวที่ตอบคำถามหรือข้อสงสัยของกลุ่มลูกค้าได้ สร้างความน่าเชื่อถือ ก็จะสามารถเพิ่มจำนวน Conversion และยอดขายให้กับธุรกิจได้
ในการทำ Content Marketing เพื่อเพิ่มจำนวน Conversion ควรให้ความสำคัญกับ Call-to-Action (CTA) เนื่องจาก Call-to-Action ที่ชัดเจน จะสามารถบอกกับผู้เข้าชม ถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไปเพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เช่น สมัครสมาชิกหรือลงทะเบียน เพื่อแลกกับคูปองส่วนลด, สินค้าทดลองหรือ E-Book
ช่วยให้ SEO และ Ranking ของเว็บไซต์ดีขึ้น
SEO เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการมองเห็นธุรกิจคุณบนโลกออนไลน์ ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจคุณ ซึ่งการทำ Content Marketing ที่ดี จะช่วยทำให้ SEO ของเว็บไซต์ดีขึ้นได้ เนื่องจากการสร้างคอนเทนต์หรือบล็อกในหลาย ๆ หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ มีแนวโน้มที่ Keyword Ranking จะดีขึ้นและมีโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเสิร์ชแบรนด์เจอ ยิ่งไปกว่านั้นการมีคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายบนเว็บไซต์ สามารถทำให้ผู้เข้าชมอยู่บนเว็บไซต์คุณนานขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อ SEO เพราะ Google เห็นว่าการใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นาน ๆ บ่งบอกได้ว่าคอนเทนต์นั้นมีคุณภาพและคุณค่า
ดังนั้น หากคุณต้องการปรับปรุง SEO สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือ การทำ Content Marketing
เพราะธุรกิจที่โพสต์บล็อกอย่างสม่ำเสมอบนเว็บไซต์ Search Engines จะทำการ Index หน้าเว็บ มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ได้โพสต์บล็อกโดยเฉลี่ยถึง 434% ยิ่งมีคอนเทนต์บนเว็บไซต์มาก Search Engine ก็จะสามารถทำการ Index หน้าเว็บเข้าไปยังคลังข้อมูลได้เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถแสดงผลเมื่อมีคนเสิร์ชได้มากขึ้นเช่นกัน
นอกจากคอนเทนต์ที่ดีแล้ว การทำ On-Page SEO ยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติด Ranking ดีขึ้นเช่นกัน
การทำ On-Page SEO ที่ดี ต้องให้ความสำคัญหลายส่วนประกอบกัน ยกตัวอย่างเช่น
- การใส่ Keyword ที่เกี่ยวกับแบรนด์ ลงไปใน URLs, Title Tag, Meta Description และ Heading Tags (H1-H6)
- Page Loading Speed ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บทั้งในคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
- Image Alt Text ใส่ข้อความหรือ Keyword เพื่ออธิบายรูปภาพหรือคำจำกัดความของรูปภาพ
- Responsive Web Design ออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้ปรับเปลี่ยนขนาดและรูปแบบเว็บไซต์ ตามอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://wexperience.co/growth-articles/content-marketing